วันจันทร์ที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

คู่มือการใช้ADOB BE CAPTIVATE 3.0ขั้นตอนการติดตั้ง

คู่มือการใช้ADOB BE CAPTIVATE 3.0ขั้นตอนการติดตั้ง
1. ปิดโปรแกรมที่เปิดใช้งานต่างอยู่
2. เลือกโปรแกรมจากแผ่น CD หรือจาก Folder ที่มีโปรแกรมในชุดโปรแกรมที่ติดตั้งจะมีไฟล์ที่สำคัญอยู่ด้วยกันคือ Adobe_Captivate_3_WWE และ Keygen
3. เมื่อติดตั้งให้ดับเบิลคลิกที่ไฟล์ Adobe_Captivate_3_WWE.exe
4. คลิก Run เพื่อแตกไฟล์ที่บีบอัดมา
5. เมื่อคลิด Next ก็จะขยายไฟล์ไปยังตำแหน่งที่กำหนด
6. ให้รอในขณะที่กำลังแตกขยายไฟล์
7. คลิก Next เพื่อเริ่มติดตั้งโปรแกรม
8. คลิก Accept เพื่อยอมรับข้อตกลง และติดตั้งโปรแกรม
9. คลิก Next เมื่อไม่ต้องการเปลี่ยน Folder ที่ติดตั้ง
10. คลิก Install ติดตั้งโปรแกรม
11. ให้รอจนกว่าจะเสร็จ
12. การติดตั้งโปรแกรมเสร็จสิ้น
13. ส่วนไฟล์ keygen.exe จะเป็นไฟล์ของ serial key ให้ดับเบิลคลิกเพื่อหา serial key
14.เมื่อต้องการ Serail ให้คลิกที่ Serial Number
15. คัดลอก Serial Number ที่ได้จากไฟล์ Keygen
16. เมื่อ Serial Number ถูกต้อง ให้คลิก Next
17. Copy Activation Number ไปวางใน Keygen คลิกAuthorization Code
18. Copy Authorization Code ไปวางในช่องAuthorization Code แล้วคลิก Activate
19. Activate เสร็จแล้วคลิก Done
20. ไม่ต้องลงทะเบียนให้คลิกที่ Register Later ก็จะเสร็จสมบาณ์ในการติดตัง้ส่วนประกอบหน้าจอแรกของโปรแกรม Adobe CaptivateOpen a recent project แสดงไฟล์ล่าสุดที่เคยบันทึกไว ในโปรแกรม เปิดไฟล์ที่เคยบันทึกไวRecord new project (สำหรับการเริ่มต้นใช้งานแนะนำให้ใช้งานตรงส่วนนี้) สำหรับสร้าง projectบันทึก movie (จับหน้าจอภาพ)Getting started tutorials แนะนำขั้นตอนการสร้าง Project ด้วยโปรแกรม Adobe Captivate เริ่มตั้งแต่การบันทึก การแก ไขตกแต่ง การส่งออก การนำเข้าไฟล์เสียงการสร้างส่วน ตอบโต้ การใส่ลูกเล่นเพื่อเพิ่มความน่าสนใจ ตามลำดับเริ่มต้นใช้งาน Adobe Captivate 3.0เป็นที่ทราบกันแล้วว่าจุดเด นของโปรแกรม Adobe Captivate 3.0 มีความสามารถในการ สร้างMovie ได้หลากหลายรูปแบบ เริ่มแรกให้คลิกที่ Record or create a new project จะ ปรากฏหน้าต่าง ewproject options
10. Software Simulation หมายถึงว่าจะเป็นการจำลองการจับหน้าจอภาพตามที่เรากระทำ โปรแกรมจะทำการเก็บภาพหน้าจอตามที่เรากระทำกับ Mouse หรือกระทำอื่นใดกับจอภาพ ในส่วนที่โปรแกรมให้เราเลือกจากรายการที่กำหนด มีหลัก การทำงาน ดังนี้- Application สำหรับการ Capture movie ทั้งหน้าจอภาพ ของโปรแกรมที่เรา ต้องการจะทำการบันทึกการทำงานของหน้าจอ- Custom size สำหรับการ Capture movie แบบกำหนดขนาดหน้าจอภาพได้- Full Screen สำหรับการ Capture movie ทั้งหน้าจอภาพการสร้างผลงานสื่อการเรียนการสอนด้วยโปรแกรม Captivate รวมถึงการสร้าง Movies ควรเริ่มต้นโดยวางแผนการสร้างภาพเคลื่อนไหว (Movie) โดยออกแบบ Storyboards, Scripts หรือใน รูปแบบอื่นตั้งค่าเริ่มต้นการใช้งานในการจับจอภาพเคลื่อนไหว (Movie preferences)บันทึกภาพเคลื่อนไหว ที่กระทำกับจอภาพ การคลิกกับวัตถุใด ๆ บนจอภาพ โปรแกรมจะ บันทึกไว1 สไลด์ ในการคลิกแต่ละครั้ง หรือจะนำเข้าไฟล์ภาพเคลื่อนไหวก็ได้ เพิ่มข้อความ รูปภาพ เสียง ข้อความเคลื่อนไหว และรายละเอียดส่วนอื่น ๆ แก ไขปรับปรุง Timeline ทดลองดูภาพเคลื่อนไหวที่สร้างขึ้น
11. กำหนดเงื่อนไขในการสร้าง E-Learning และสร้างสไลด์คำถามใน (เติมคำในช่องว่าง, แบบเหมือน,จับคู , ตัวเลือก, ตอบสั้นๆ ,ถูกผิด)เลือกจัดเก็บรูปแบบในการเผยแพร (Publish)จัดเก็บและเผยแพร ในลักษณะไฟล์ฟอร์แมต EXEจัดเก็บและเผยแพร ในลักษณะไฟล์ฟอร์แมต Flash และ เรียกใช้โดย HTMLจัดเก็บและเผยแพร ในลักษณะไฟล์ฟอร์แมต zip เพื่อใช่เป็น SCORMจัดเก็บและเผยแพร ในลักษณะไฟล์ฟอร์แมต Word หรือ Handout (คู มือการใช้ งาน)จัดเก็บและเผยแพร ไปบนเว็บไซต์ ด้วย FTP ส่ง Movie โดยใช้ E-mailการสร้างภาพเคลื่อนไหวด้วยโปรแกรม Adobe Captivate 3.0 Step by StepStep
1 คลิกที่ Record or create a new projectStep
2 จะปรากฏหน้าต่าง New movie options ให้คลิกที่ Record or create a new project
12. เมนูการใช้งาน New Project OptionsSoftware Simulation ใช้สำหรับจับภาพการเคลื่อนไหวของหน้าจอภาพ แสดงออกมา ในรูปแบบของสถานการณ จำลองApplication สำหรับการจับภาพของหน้าต่างที่เปิดใช้งานอยู่ (Active window) Custom size สำหรับการจับภาพหน้าจอที่กำหนดขนาดของขอบเขตได้ Full Screen สำหรับการจับภาพทั้งจอภาพDemonstration หมายถึง โปรแกรมจะจับหน้าจอตามการกระทำที่เกิดขึ้น มีการ เคลื่อนไหวของเมาส์ มีกรอบโต้ตอบกับผู้เรียนAssessment Simulation โปรแกรมจะบังคับให้ผู้เรียนกระทำตามที่ได้บันทึกหน้าจอไว เช่นถ้ามีการบันทึกการคลิกเมาส์ไว เมื่อเล่นมาจนถึงช่วงที่ต้องคลิกเมาส์โปรแกรมจะหยุด เล่นจนกว่าจะมีการคลิกเมาส์และหากคลิกผิดที่จะมีกล่องข้อความขึ้นมาบอกว่าต้องคลิก ที่ใด เมื่อผู้เรียนคลิกเมาส์ถูกต้อง โปรแกรมจะเล่นต่อไปจนกว่าจะมีเหตุการณ ใหม่เกิดขึ้นTraining Simulation หมายถึงการจับหน้าจอแบบการฝึกอบรม โปรแกรมจะทำการบันทึก หน้าจอทั้งหมด เมื่อมีการเล่นโปรแกรมจะแสดงกล่องข้อความโต้ตอบให้ผู้เรียนทำตาม การบันทึกหน้าจอแบบนี้เหมาะสำหรับสอนการใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ทั้งนี้สามารถ บันทึกเสียงบรรยายไปพร้อมกันได้ด้วยCustom โปรแกรมจะให้เราเข้าไปกำหนดค่าในการบันทึกได้ด้วยตนเองและสามารถแก ไข ได้อีกในภายหลังการ Capture movie หน้าจอภาพเป็นการใช้งานที่น่าสนใจมากทีเดียว เพราะสามารถ นำไปใช้เป็นสื่อเรียนรู แบบมัลติมีเดีย ที่ดึงดูดความสนใจได้เป็นอย่างดี ซึ่งขั้นตอนการCapture movie หน้าจอภาพทำได้ดังนี้
1. คลิก Start, Programs, Macromedia, Adobe Captivateเลือกโปรแกรมที่จะสร้างสื่อการเรียนการสอนเลือกโปรแกรมให้พอดีกับขนาดที่ตั้งค่าไว้อัดเสียงบรรยายลักษณะที่จะบันทึกเริ่มการบันทึก
2. คลิก Record or create a new movie จะปรากฏหน้าต่าง New movie options
3. คลิก Full screen เพื่อ Capture movie ทั้งหน้าจอภาพ
4. คลิก OKMonitor แสดงสถานะจอภาพที่กำลังใช้งานRecord narration เป็นการบันทึกเสียงบรรยายพร้อมๆ กับการ Screen capture movieRecording size บอกขนาดการ Capture movie หน้าจอภาพOptions… เป็นการปรับแต่งเพิ่มเติม ปกติจะใช้ค่าที่โปรแกรมกำหนดมาให้Record เมื่อกดปุ่มนี้จะเป็นการเริ่มบันทึกการ Capture movie หน้าจอภาพ
5. คลิกปุ ม Record เพื่อเริ่มบันทึก การ Capture movie หน้าจอภาพ
6. กดปุ ม บนแป้นพิมพ์เมื่อสิ้นสุดการ Capture
7. ปรากฏสไลด์ Movie (Movie Frame) ซึ่งจำนวนสไลด์จะขึ้นอยู่กับจำนวนครั้งที่คลิก เมาส์เช่น หากมีการคลิกเมาส์ 10 ครั้งก็จะได้จำนวนสไลด์เท่ากับ10 สไลด์ หรือ 10 เฟรม สไลด์Movie (Movie Frame)
8. คลิกปุ ม Edit เพื่อแก ไขสไลด์
9. การปรับแต่ง Timelineปกติแต่ละสไลด์จะมีค่า Timeline อยู่ที่ 4 วินาที ในรูปข้างล่างจะเป็น Slide 4(4.0s)สามารถปรับแต่งเพิ่มหรือลดค่า Slide Timeline ได้วัตถุที่วางบนสไลด์จะวางเรียงกันเป็นเลเยอร์(Layer) ถ้าต้องการปรับแต่ง Timeline วัตถุใดก็ให้คลิกที่วัตถุนั้นแล้วลากซ้ายขวาคลิกแล้วลากเพื่อปรับแต่ง Timeline โปรแกรมจะสร้างข้อความให้อัตโนมัติ สามารถดับเบิลคลิกเพื่อแก ไขข้อความได้
10. การแก ไขข้อความในสไลด์ปกติโปรแกรมจะสร้างข้อความในสไลด์ให้อัตโนมัติ เราสามารถแก ไขข้อความได้ โดยดับเบิลคลิกแล้วแก ไขข้อความ ดังรูปข้างล่างเมื่อต้องการแก้ไขข้อความภายใน Text Caption ให้ดับเบิลคลิกก็จะสามารถแก้ไขข้อความได้
11. การลบสไลด์การลบสไลด์ทำได้โดยคลิกสไลด์ที่ต้องการลบ แล้วกดปุ ม บนแป้นพิมพ์
12. การเพิ่มสไลด์ จุดประสงค์เพื่อทำสไลด์ไตเติลการเพิ่มสไลด์ทำได้โดยคลิกที่เมนู Insert, Blank Slide หลังจากเพิ่มสไลด์เราก็ สร้าง Textanimation เป็นสไลด์ไตเติลก่อนที่จะเข้าเนื้อหาเมื่อได้ Slide แล้วให้นำขึ้นไปเป็นสไลด์แรก แล้วจึงแทรก Text animation
13. การใส่สีพื้นหลังให้กับสไลด์การใส่สีพื้นหลังให้กับสไลด์ทำได้โดยคลิกที่เมนู Slid, Properties…เลือกสีพื้น หลัง สีพื้นหลังที่เลือก Text animation
14. การดูผลงานสไลด์ Movieการดูสไลด์ Movie ทำได้โดยคลิกที่ปุ ม Preview เช่นเลือก Preview In Web rowserสไลด์จะโชว์เป็นภาพเคลื่อนไหวตามลำดับสไลด์ เมื่อดูผลงานเสร็จแล้วให้คลิกปุ ม Close แล้วบันทึกไฟล์เก็บไว เพื่อแก ไขใน ภายหลัง
15 การบันทึกไฟล์โปรแกรม Adobe Captivateการบันทึกไฟล์โปรแกรม Adobe Captivate คือการเก็บ ไฟล์ที่เราสร้างไว เพื่อประโยชนสำหรับการแก ไขในภายหลัง โดยโปรแกรม Adobe Captivate มีนามสกุลไฟล์ *.CP โดยวิธีการบันทึกให้ ไปที่เมนู File, Save หรือคลิกปุ ม Save บน Main Tools Barการสร้างงานด้วย Blank Projectการสร้าง Blank Project เมื่อตกลงจะได้หน้าใหม่ให้ตั้งค่าต่างดังนี้User defined กำหนดขนาดตามความต้องการ เช่น ตัวอย่างเลือกขนาด 800 x 600Preset size กำหนดขนาดตามความละเอียด (Resolution) ของจอภาพการสร้าง Movie ด้วยวิธีนี้จะอาศัยเครื่องมือที่อยู่ด้านล่างช่วยสร้างเครื่องมือที่สำคัญที่นิยมใช้กันดังนี้การสร้าง Text Animationคลิกที่ Object Tools ที่ชื่อ Text Animation ปรากฏหน้าต่าง New text Animation เลือก TextAnimationแทรก Flash Vedio จัดตำแหน่งแทรก Animationแทรก Rollover image เมาส์ผ่านเกิดเป็นภาพแทรกภาพแทรก Text Animationแทรกปุ่มบังคับในสไลด์แทรก Click Box คลิกตำแหน่งภาพแทรก Text Emtry การเติมคำในช่องว่างแทรก Zoom Area ขยายพื้นที่ต้องการแทรก Rollover slideletแทรก Rollover caption เมื่อเมาส์ลากผ่านตำแหน่งที่กำหนดจะมีข้อความเกิดขึ้นแทรก caption คือการแทรกตัวหนังสือEffect เลือกรูปแบบการแสดงผลข้อความText พิมพ์ข้อความที่ต้องการChange font… เปลี่ยนรูปแบบ ขนาด หรือสีของตัวอักษร20ค่าของ Optionsค่าของ Audioการสร้าง Caption หรือสร้างหนังสือทั่วไปเมื่อสร้างสไลด์ใหม่แล้ว คลิกที่ Object Tools ที่ชื่อ Caption ปรากฏหน้าต่าง New text CaptionTiming กำหนดเวลาการแสดงผลของ MovieLoop คลิกถูกที่ Loop กำหนดให้เล่นวนซ้ำTransition กำหนด Effect ในการเปลี่ยนฉากแต่ละสไลด์ (Frame)Record new… กำหนดการบันทึกเสียงจากไมโครโฟนImport… นำเข้าไฟล์เสียง เช่น MP3, WAVSettings การกำหนดค่าของเสียงที่บันทึก เลือกไมโครโฟนCaption type กำหนดลักษณะรูปแบบของCaptionFont…รูปแบบตัวหนังสือส่วนค่า option และ Audio จะมีลักษณะพื้นที่พิมพ์ตัวหนังสือ เหมือนกับ การสร้าง text Animation21การสร้าง Rollover Captionเป็นการสร้างหนังสือในรูปแบบที่เมื่อแสดงผลโดยการลากเมาส์ผ่านจุดที่กำหนดจึงจะปรากฏหนังสือออกมาให้เห็น เริ่มสร้างโดยคลิกที่ Object Tools ที่ชื่อ Rollover Caption ปรากฏหน้าต่าง RolloverCaptionการสร้างปุ่มควบคุมโดยคลิกที่ Object Tools ที่ชื่อ Button ปรากฏหน้าต่างการแทรก Text EntryText Entry ใช้แทรกเพื่อทำกิจกรรมในระหว่างเรียนหรือเป็นการทดสอบความสามรถของนักเรียน ซึ่งเป็นการเติมคำในช่องว่าง มีขั้นตอนดังนี้
1. สร้างคำถามด้วย Caption
2. เลือกไอคอน Text Entry บนจอภาพจะเกิดกรอบโต้ตอบใหม่ขึ้นมา
3. เลือกตำแหน่งแล้วปรับ Text Entry ให้เหมาะสม
4. เปลี่ยน Type success text here โดยดับเบิลคลิก แล้วเป็น ถูกต้อง
5. เปลี่ยน Type failure text hereโดยดับเบิลคลิก แล้วเป็น ผิดให้ตอบใหม่
6. แทรก Bottom ควบคุม
7. จัด Time Line ให้เหมาะสมข้อความที่ปรากฏในช่องคำตอบที่ถูกตกลงการแทรกรูปภาพ (image)โดยคลิกที่ Object Tools ที่ชื่อ Image ปรากฏหน้าต่างใหม่ให้เลือกรูปภาพที่จะแทรกเมื่อเลือกรูปภาพแล้วถ้าหากภาพมีขนาดใหญ่จะมีหน้าต่างให้ Crop รูปภาพ .ให้ได้ขนาดพอดีกับพื้นที่ที่กำหนด ถ้าเลือก Resize จะทำให้ขนาดของภาพปรับลดขนาดลงให้พอดีกับพื้นที่กำหนดImage กำหนดขนาดของภาพหรือเปลี่ยนภาพClick Box เป็นการทำที่เกี่ยวกับภาพและคำถามที่เกี่ยวข้องกับภาพเพื่อเป็นการฝึกให้นักเรียนทดลองทำหลังจากที่เรียนผ่านไปโดยการคลิกที่ภาพตามคำถามที่กำหนดให้ มีขั้นตอนในการสร้างดังนี้
1. แทรกรูปภาพที่ต้องการทดสอบความรู้ของนักเรียน ด้วยไอคอน Image
2. แทรกคำถามด้วยไอคอน Caption
3. เลือกไอคอน Click Box บนจอภาพจะเกิดกรอบโต้ตอบ
4. ปรับตำแหน่งที่ต้องการให้คลิกเมาส์ที่ที่ตำแหน่งที่ถูกต้อง
5. เปลี่ยน Type success text here โดยดับเบิลคลิก แล้วเป็น ถูกต้อง
6. เปลี่ยน Type failure text hereโดยดับเบิลคลิก แล้วเป็น ผิดให้ตอบใหม่
7. แทรก Bottom ควบคุม
8. จัด Time Line ให้เหมาะสมการแทรกแบบทดสอบคลิกเมนู insert, Slide จะปรากฏหน้าต่าง Question Slide รูปแบบการ Question Slideรูปแบบการ Question Slideชนิดของแบบทดสอบที่โปรแกรมกำหนดให้มีหลายรูปแบบสามารถที่เลือกได้ตามความเหมาะสมในการสร้างบทเรียน เมื่อเลือกแบบทดสอบแล้วให้กดปุ่มสร้างแบบทดสอบ ก็จะได้หน้าต่างใหม่สำหรับสร้างกำหนดให้ถูกข้อเดียวหรือหลายข้อกำหนดให้เป็น A B C หรือ a b cกำหนดรายละเอียดข้อสอบการกำหนดรายละเอียดข้อสอบเพื่อนำออกไปใช้ประโยชน์ต่อไปการส่งออก (Publish) ไฟล์ *.CP
1. เปิดไฟล์ *.CP ที่เคยสร้างไว แล้ว
2. คลิกเมนู File, Publish จะปรากฏหน้าต่าง Publish รูปแบบการ Publishตัวอย่างนี้เลือก Publish เป็น Flash (SWF)และ HTML หลังจากที่ Publish ก็จะได้ ไฟล์ 2 ไฟล์ คือ.SWF กับ .HTMLFlash (SWF) ส่งออกเป็น Flash movie File (.swf) สำหรับใช้งานบนเว็บไซต์ Adobe ConnectEnterprise ส่งออก Online บนอินเทอร์เน็ตStandalone ส่งออกเป็นไฟล์ *.exe สำหรับสื่อเรียนรู เปิดดูได้โดยไม่ต้องติดตั้งโปรแกรม E-Mailส่งออกเป็น E-MailPrint ส่งออกเป็นใบปลิว (ส่งออกโปรแกรม Microsoft Word) FTP ส่งออกเป็น File Transfer ProtocalOutput OptionsZip File ส่งออกเป็นไฟล์ *.ZIP ซึ่งสามารถนำเข้าบทเรียนออนไลน์ใน Moodle ในรูปแบบ ScromFull screen ส่งออกแบบเต็มจอภาพ เมื่อเลือกเพิ่มExport HTML ส่งออกเป็นไฟล์ *.HTML จะได้ทั้งไฟล์ที่เป็น .SWF กับ .HTMLGenerate autorun for CD สร้างระบบ autorun สำหรับแผ่น CDFlash Version เป็นการเลือกรุ นของโปรแกรมเล่นไฟล์ FlashProject Informationโดยเลือก Preferences สำหรับตั้งค่าต่างก่อนที่จะนำออกไป จะปรากฏหน้าต่างใหม่ให้ตั้งค่าPreferences แสดงข้อมูลเกี่ยวกับไฟล์ที่ส่งออก เช่น ขนาดของการแสดงผล (Resolution), จำนวนสไลด์ทั้งหมด (Slides), การใส่เสียงประกอบสไลด์ (Slide with audio) คุณภาพของเสียง (Audio Quality),e-learning Output, แถบควบคุม Movie (Playback Control) Preferences… การกำหนดรูปแบบการส่งออกเพิ่มเติมStandalone ส่งออกเป็นไฟล์ *.exeในการสร้างสื่อการเรียนการสอนในรูปแบบที่เป็นลักษณะคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เพื่อที่จะให้นักเรียนนักศึกษาสามารถที่จะนำไปศึกษาเพิ่มเติมได้ด้วยตนเอง มีขั้นตอนการสร้างดังนี้
1. เลือกเครื่องมือ Publish แล้วเลือก Standalone เมื่อทำเสร็จสามารถที่ใช้งานได้เลยโดยเลือกเปิดเล่นจากไฟล์ที่สร้างขึ้นมา
2. ทำเหมือนกันทุกๆ หน่วย หรือที่มีอยู่จนหมดทุกงาน เพื่อที่จะสร้างเมนูสำหรับใช้งานให้ได้งานทั้งหมด
3. เลือกเมนู File แล้วทำภาพ
4. จะได้หน้าต่างใหม่ดังภาพแล้วทำตามได้เลย
5. เลือกรูปแบบเมนู
6. สร้างเมนูที่หน้าแรกของงานที่นำเสนอ
7. จะได้หน้าต่างสำหรับตั้งชื่อแผ่นซีดี แล้วก็กด Finish
8. จะได้หน้าต่างสำหรับปรับแต่งเมนูให้เหมาะสม
9. เมื่อปรับแต่งเสร็จให้เลือกเครื่องมือ Export เพื่อนำไปใช้งานจริง
10. เมื่อเกิดหน้าต่างใหม่ขึ้นมาให้ตั้งชื่อและเลือก Folder ที่จะบันทึก แล้วกด Finish
11. จากนั้นให้ทดลองทดสอบว่างานที่ทำเสร็จสามารถใช้งานได้หรือไม่
12. เมื่อตรวจสอบแล้วก็ให้นำงานทั้งหมดใน Folder นั้น เขียนลงในแผ่นซีดีเพื่อนำไปใช้งานจริงการบันทึกเพื่อนำไปใช้กับ Moodleแต่ถ้าต้องการนำเข้าในโปรแกรม Moodle เพื่อสร้างบทเรียนออนไลน์ ในลักษณะที่เป็น Scormจะต้องเสร็จค่าให้เป็น Scorm ด้วยตามภาพ และเลือก Publish ให้ Zip filesเมื่อกำหนดค่าหมดแล้ว ก็กด Publish โปรแกรมจะทำการบันทึกไฟล์ตามรูปแบบที่กำหนดเมื่อ Publish เสร็จสามารถที่ดูงานที่สร้างเสร็จสมบูรณ์ได้โดยกดปุ่ม View Output งานที่เสร็จนั้นก็จะแสดงผลให้ดูได้เลยการนำบทเรียนที่สำเร็จใช้ร่วมกับ โปรแกรม Moodle เพื่อเป็น E_learningสามารถที่จะทำได้โดยเปิดบทเรียน E_learning ที่สร้างไว้ก่อนแล้วได้ตามขั้นตอนดังนี้
1. เปิด Internet Explorer หรือตัวไหนก็ได้ที่สามารถเข้าอินเตอร์เนตได้
2. เลือกรายวิชาที่จะสร้างบทเรียนแล้วเข้าสู่ระบบในฐานะผู้ที่สามารถแก้ไขงานได้
3. เข้ารายวิชาแล้วให้เริ่มแก้ไขงาน
4. เลือกเพิ่มแหล่งข้อมูล เลือกแบบลิงค์ไฟล์หรือเว็บไซด์
5. จะมีหน้าต่างใหม่ให้เลือก
6. เลือกหรืออัพโหลดไฟล์ เพื่อนำไฟล์ที่สร้างเสร็จแล้วเข้ามาใช้งาน
7. จะได้หน้าต่างใหม่ให้เลือกไฟล์เข้ามาได้
8. เมื่อเลือกอัพโหลดไฟล์นี้จะได้หน้าให้เลือกไฟล์
9. จะกลับมาที่หน้าให้บันทึกการเปลี่ยนแปลง
10. เมื่อบันทึกเสร็จก็สามารถที่จะแสดงผลงานผ่านหน้าเว็บไซด์ได้เลยโดยคลิกที่ชื่อของงานเมื่อเสร็จแล้วสามารถที่จะเพิ่มบทเรียนอื่นในทำนองเดียวกัน แต่ถ้าหากบทเรียนมีบททดสอบด้วยให้ใช้วิธีนำเข้าโดยการเพิ่มกิจกรรมแล้วเลือก Scrom :ขั้นตอนการนำเข้าคล้ายๆ กัน

ไม่มีความคิดเห็น: